ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ

【อัปเดต 2024】กฎระเบียบและวิธีการ ลงทะเบียนโดรนในกรุงเทพฯ ประเทศไทย

อัปเดตล่าสุด: 16 กันยายน 2024

เทคโนโลยี โดรน ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การใช้งานขยายจากงานอดิเรกด้านการถ่ายภาพไปจนถึงเชิงพาณิชย์อย่างรวดเร็วในประเทศไทย โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวของไทย การถ่ายภาพทางอากาศด้วยโดรนกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้สร้างสรรค์ผลงานวิดีโอในการเก็บภาพวิวทิวทัศน์อันงดงามจากมุมสูง อย่างไรก็ตาม การใช้ โดรนในประเทศไทย อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย จำเป็นต้องมีความรู้และการเตรียมตัวที่เหมาะสม

บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ ข้อกำหนดทางกฎหมาย ขั้นตอนที่จำเป็น และแนวทางปฏิบัติที่ต้องปฏิบัติตามเมื่อบินโดรนในประเทศไทย เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถใช้ โดรนเพื่อการถ่ายภาพ ได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย ข้อมูลเชิงปฏิบัติที่นำเสนอจะช่วยให้คุณบินโดรนในประเทศไทยได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

ドローンサービス タイ

เรามีใบอนุญาตบินโดรนในประเทศไทย และสามารถจัดหานักบินโดรนทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทยได้ หากสนใจโปรดติดต่อเราได้เลย

ข้อควรระวังพื้นฐานในการ ถ่ายภาพด้วยโดรนในประเทศไทย

การบิน โดรนในประเทศไทย ต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตหลายอย่าง ตาม พระราชบัญญัติการบิน ห้ามบิน อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในพื้นที่ใกล้สนามบิน เช่น สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง รวมถึงวัด สวนสาธารณะ และบริเวณรอบหน่วยงานราชการ

GEOZONE タイ

สามารถตรวจสอบได้จาก GEO ZONE

จากภาพด้านบน บริเวณรอบสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองจะถูกแสดงเป็นสีแดงและสีน้ำเงิน พื้นที่สีแดงเรียกว่า “Restricted Zones” ซึ่งโดยหลักการแล้ว ไม่สามารถบินโดรนได้ แม้พยายามจะบิน ระบบก็จะบล็อกการควบคุมโดยอัตโนมัติ เว้นแต่จะได้รับการอนุญาตล่วงหน้า จึงจะสามารถบินได้

พื้นที่สีเทาคือ “Altitude Zone” ซึ่งมีข้อจำกัดด้านความสูง หากไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้า ระบบจะบังคับจำกัดความสูงของโดรนโดยอัตโนมัติ พื้นที่สีน้ำเงินคือ เขตควบคุมที่ต้องขออนุญาต (Permission Zone) ซึ่งก็มีข้อจำกัดเช่นเดียวกัน

นอกจากพื้นที่ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้ว ยังมีอีกหลายสถานที่ในประเทศไทยที่ต้องขออนุญาตก่อนบินโดรน ในกรุงเทพฯ บางพื้นที่ต้องได้รับอนุญาตเป็นกรณีไป นอกจากนี้ชายหาดและเกาะยอดนิยม รวมถึงวัดต่าง ๆ ก็อาจไม่สามารถบินได้หากไม่มีใบอนุญาต แม้จะมีบางคนที่ละเมิดกฎและบินโดรนโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ต้องตระหนักว่านั่นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ในความเป็นจริง มีหลายกรณีที่การบินโดรนอย่างผิดกฎหมายได้นำไปสู่การถูกดำเนินคดีทางอาญา

การ บินโดรนในประเทศไทย ต้องทำอย่างไร

ก่อนอื่น การบิน โดรนในประเทศไทย ต้องได้รับเอกสารสำคัญ 3 อย่างดังต่อไปนี้

  • การทำ ประกันโดรน
  • การลงทะเบียนกับ NBTC (สำนักงาน กสทช. – National Broadcasting and Telecommunications Commission)
  • การลงทะเบียนกับ CAAT (สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย - Civil Aviation Authority of Thailand)

ตามข้อมูลจาก CAAT หากบินโดรนโดยไม่มีเอกสารครบทั้ง 3 อย่างข้างต้น จะมีโทษตาม พระราชบัญญัติการบิน มาตรา 27 และมาตรา 78 คือ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับข่าว กรณีตัวอย่าง และโทษปรับที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ถ้าบินโดรนในไทยโดยไม่มีใบอนุญาตจะเกิดอะไรขึ้น? ซึ่งได้อธิบายไว้โดยละเอียด

สามารถยื่นคำขอผ่านแอปพลิเคชัน OPENSKY ได้ (เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร)

OPENSKY

แม้จะครอบคลุมเฉพาะบางพื้นที่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่มีแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า OPENSKY ซึ่งพัฒนาโดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) แอปนี้จะช่วยส่งคำขอไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ที่ต้องการบินแบบกึ่งอัตโนมัติ ผมลองใช้งานแล้วพบว่าบางครั้งคำขอได้รับการอนุมัติ แต่บางครั้งก็ไม่ผ่านเลย อย่างไรก็ตาม แอปนี้ช่วยทำให้ขั้นตอนการยื่นคำของ่ายขึ้นบ้าง จึงแนะนำให้ลองใช้งานดูครับ

สามารถนำ โดรนจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย ได้หรือไม่?

สามารถนำโดรนเข้ามาในประเทศไทยจากต่างประเทศได้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวระยะสั้น การขึ้นทะเบียนและบินอย่างถูกกฎหมายทำได้ยากมากในทางปฏิบัติ การนำโดรนที่ซื้อจากต่างประเทศมาใช้บินในประเทศไทย ไม่สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ จำเป็นต้องไปที่สำนักงานของ NBTC หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง พร้อมนำโดรนเครื่องจริงไปดำเนินการลงทะเบียน

นอกจากนี้ การบินโดรนในประเทศไทยจำเป็นต้องมีเงื่อนไขดังนี้: ① ต้องทำประกันภัยโดรน ② ต้องลงทะเบียนข้อมูลโดรนและข้อมูลส่วนบุคคลกับ NBTC ③ ต้องลงทะเบียนกับ CAAT และยังต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ที่จะทำการบินด้วย (บางพื้นที่ถูกกำหนดเป็นเขตห้ามบิน และในบางกรณีอาจต้องขออนุญาตจากตำรวจหรือกองทัพด้วย) สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือผู้ที่พำนักระยะสั้น/มาทำงานชั่วคราว การยื่นขออนุญาตภายในระยะเวลาสั้น ๆ ถือว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นในกรณีที่พำนักระยะยาว

หลายคนอาจคิดว่า “งั้นเช่าโดรนในประเทศไทยก็พอสิ!” แต่การเช่าโดรนเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย โดรนที่จะใช้บินได้ต้องเป็นโดรนที่ได้ลงทะเบียนกับ NBTC และ CAAT แล้วเท่านั้น และผู้ควบคุมโดรนหรือนักบินต้องเป็นผู้操縦เองหรืออยู่ร่วมในสถานที่นั้นด้วย บางครั้งอาจเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติบินโดรน แต่หากถูกตำรวจตรวจพบ จะมีโทษตามกฎหมาย ดังนั้นโปรดรับผิดชอบด้วยตนเอง บทความนี้ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับโทษไว้แล้ว

วิธีการบินโดรนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ

เราได้อธิบายไปแล้วว่า การบินโดรนในประเทศไทยจำเป็นต้องมีการลงทะเบียนกับ NBTC, CAAT และทำประกันภัย ตอนนี้จะมาอธิบายขั้นตอนการลงทะเบียนจริง ๆ ซึ่งแม้จะสามารถทำได้ แต่ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายามค่อนข้างมาก

การลงทะเบียน NBTC จำเป็นต้องมี “ใบอนุญาตเข้าประเทศ (หรือวีซ่าอื่น ๆ)” ของประเทศไทย ไม่สามารถลงทะเบียนออนไลน์จากต่างประเทศได้ หากเป็นโดรนที่ซื้อในประเทศไทยจะสามารถลงทะเบียนได้โดยไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นโดรนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ต้องไปที่สำนักงาน NBTC ด้วยตนเอง พร้อมแสดงใบอนุญาตเข้าประเทศหรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไปแล้ว หากยื่นเรื่องที่เคาน์เตอร์ มักจะได้รับอนุญาตในวันเดียวกัน

สำหรับการลงทะเบียนกับ CAAT สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ แต่จะต้องมีประกันภัยโดรนก่อนจึงจะดำเนินการได้ กระบวนการอนุมัติโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ลงทะเบียนเท่านั้นยังไม่เพียงพอ เนื่องจากบางพื้นที่ไม่สามารถบินได้ การถ่ายทำจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของสถานที่ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ ตัวอย่างเช่น ภายในกรุงเทพฯ หรือเขตที่มีผู้คนหนาแน่น การบินโดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าผิดกฎหมาย แม้แต่ชายหาดบางแห่งก็เป็นพื้นที่ห้ามบินเช่นกัน ขณะเดียวกันก็ยังมีบางพื้นที่ที่ไม่ต้องขออนุญาต ก่อนบินแนะนำให้ตรวจสอบกับ CAAT ว่าพื้นที่นั้นสามารถบินได้หรือไม่ ทั้งนี้ทางเรามีบริการตรวจสอบและขออนุญาตการบินแทนลูกค้า (มีค่าใช้จ่าย) หากสนใจสามารถติดต่อเราได้

โดรนที่ต้องลงทะเบียน

โดรนที่ติดตั้งกล้องสำหรับการถ่ายภาพหรือวิดีโอ จำเป็นต้องลงทะเบียนทุกลำ

  • โดรนที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม หรือไม่ใช่โดรนสำหรับการถ่ายภาพ ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน
  • โดรนที่มีน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัม จะไม่สามารถลงทะเบียนได้ หากไม่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
  • อายุการใช้งานของการลงทะเบียนอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาตคือ 2 ปี

เกี่ยวกับ CAAT / NBTC / ประกันโดรน

การบินโดรนในประเทศไทย จำเป็นต้องลงทะเบียนกับ CAAT, NBTC และทำประกันภัยโดรน ตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับขั้นตอนการยื่นขอ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ 「วิธีการลงทะเบียนโดรนที่ซื้อในประเทศไทยกับ CAAT และ NBTC อย่างง่าย」

เกี่ยวกับ NBTC

nbtc-logo1

NBTC (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการลงทะเบียนตัวโดรนและรีโมทคอนโทรล แม้ว่าหลายบล็อกจะระบุว่าไม่สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ แต่จริง ๆ แล้ว สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ อย่างไรก็ตาม จะทำได้เฉพาะโดรนที่ซื้อภายในประเทศไทยเท่านั้น ส่วนโดรนที่ซื้อจากต่างประเทศจำเป็นต้องไปดำเนินการที่เคาน์เตอร์ของ NBTC โดยตรง นอกจากนี้ การลงทะเบียนกับ NBTC ยังต้องใช้เอกสารตามที่ระบุด้านล่างนี้ด้วย

  • บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนาบัตรประชาชนที่มีลายเซ็นกำกับ
  • ที่อยู่ปัจจุบันในประเทศไทย พร้อมเอกสารยืนยัน เช่น ทะเบียนบ้าน หรือใบแจ้งหนี้ค่าน้ำ/ค่าไฟ
  • รูปถ่ายที่มองเห็นหมายเลขซีเรียลของตัวโดรนและรีโมทคอนโทรลที่จะลงทะเบียน
  • รูปถ่ายตัวเครื่องโดรนจริง (มุมด้านหน้า ด้านหลัง ด้านบน ด้านล่าง และด้านข้างทั้งสอง)
  • แบบฟอร์มการลงทะเบียน NBTC (กรอกและลงลายมือชื่อ)

ในส่วนของระยะเวลาการมีผลบังคับใช้นั้น โดยพื้นฐานจะอ้างอิงตามระยะเวลาของวีซ่า และเมื่อการลงทะเบียนเสร็จสิ้นแล้ว สามารถตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนได้ทาง เว็บไซต์ NBTC

CAATについて

タイのCAATの画像

CAAT ย่อมาจาก “Civil Aviation Authority of Thailand” หรือสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตสำหรับการบินโดรนอย่างถูกต้องตามกฎหมายในไทย เปรียบได้กับใบขับขี่รถยนต์ การลงทะเบียนเพียงกับ NBTC และทำประกันอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอสำหรับการบินโดรนในประเทศไทย ผู้ใช้งานจำเป็นต้องลงทะเบียนกับ CAAT ด้วย การลงทะเบียนกับ CAAT ทำได้ 2 วิธี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการดำเนินการให้เสร็จสิ้น

  1. การไปยื่นคำขอลงทะเบียนด้วยตนเองที่ CAAT
  2. การลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ (สำหรับโดรนที่ซื้อภายในประเทศไทยเท่านั้น)

เกี่ยวกับ ประกันโดรน

หากต้องการบินโดรนในประเทศไทย จำเป็นต้องมี ประกันภัยโดรน เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ต้องใช้ในการลงทะเบียนกับ CAAT หากไม่มีประกันจะไม่สามารถลงทะเบียนได้ นอกจากนี้ยังต้องทำประกันภัยแยกตามแต่ละเครื่องโดรน โดยทั่วไปบริษัทประกันจะคุ้มครองวงเงินสูงสุดประมาณ 1,000,000 บาท ปัจจุบันมีหลายบริษัทในประเทศไทยที่ให้บริการประกันภัยโดรน หากสนใจสามารถดูรายชื่อบริษัทที่จำหน่ายประกันภัยโดรนด้านล่างได้ หรือสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก สรุปรายชื่อบริษัทประกันภัยโดรนในประเทศไทย (ฉบับปี 2022)

บริษัทประกันภัยค่าเบี้ยประกันรายปีวงเงินคุ้มครอง (ประมาณ)
Mittare Insurance1,800 THB ~1,100,000 THB~
Dhipaya Insurance649 THB ~1,000,000 THB~
Purple Insurance619 THB ~1,000,000 THB~
Dronethai Insurance3,000 THB ~1,000,000 THB~

ในการลงทะเบียนกับหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะต้องเดินทางไปยื่นด้วยตนเอง ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ หรือเจอกับความยุ่งยากเพราะข้อมูลทั้งหมดมีแต่ภาษาอังกฤษ ล้วนเป็นอุปสรรคที่ทำให้หลายคนไม่อยากดำเนินการต่อ อย่างไรก็ตาม บริษัทของเราสามารถให้บริการลงทะเบียนโดรนแทนท่านได้ หากท่านสนใจสามารถติดต่อเราได้เลย

เกี่ยวกับอายุการใช้งานและการต่ออายุการลงทะเบียน NBTC และ CAAT

NBTC เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนซ้ำอีก ส่วน CAAT จะต้องต่ออายุทุก ๆ 2 ปี สำหรับประกันภัย ส่วนใหญ่จะเป็นแผนสัญญารายปี จึงต้องต่ออายุทุกปี และอัปเดตข้อมูลกับ CAAT ด้วย หากประกันหมดอายุ จะมีการแจ้งเตือนจาก CAAT ว่า “ประกันหมดอายุ” ดังนั้นอย่าลืมต่ออายุให้เรียบร้อย

ข้อห้ามในการบินโดรน

ドローン飛行に関する禁止事項

นี่คือ รายการข้อห้ามที่ต้องยอมรับเมื่อทำการลงทะเบียนกับ CAAT ซึ่งมีให้บริการเป็นภาษาไทยเท่านั้น ดังนั้นเราจึงได้แปลเป็นภาษาญี่ปุ่นแบบย่อไว้ด้านล่าง

飛行前の注意事項

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่า โดรนและระบบควบคุม (เช่น รีโมทคอนโทรลเลอร์) อยู่ในสภาพที่สามารถบินได้อย่างปลอดภัย
  • การบินต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ที่จะทำการบิน
  • ต้องทราบขอบเขตของน่านฟ้าที่จะบินและพื้นที่โดยรอบ
  • ต้องเตรียมมาตรการฉุกเฉินไว้ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
  • ต้องบำรุงรักษาเครื่องบินโดรนและรีโมทคอนโทรลตามคู่มือของผู้ผลิต
  • ต้องมีความรู้ด้านการควบคุมอากาศยานและระบบอากาศยาน
  • ต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎการจราจรทางอากาศ
  • เมื่อทำการบิน ต้องพกพาเอกสารการลงทะเบียนติดตัวไว้ตลอดเวลา
  • จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ดับเพลิงที่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลาขณะบิน เพื่อเตรียมพร้อมในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
  • ต้องทำประกันภัยการบินที่ครอบคลุมความรับผิดชอบหากเกิดความเสียหายต่อร่างกาย ชีวิต หรือทรัพย์สินของบุคคลที่สามเกิน 1,000,000 บาท โดยประกันนี้ต้องอยู่ในชื่อของนักบินอากาศยานหรือแนบมากับการลงทะเบียนโดรน และต้องมีอายุความคุ้มครองไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนหมดอายุ

ข้อควรระวังในการบินโดรน

  • ห้ามบินโดรนในลักษณะที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน และก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น
  • ตามที่มีการประกาศในข่าวประชาสัมพันธ์ของการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย การบินโดรนในเขตจำกัดหรือเขตอันตราย (เช่น หน่วยงานของรัฐ โรงพยาบาล เป็นต้น) เป็นสิ่งต้องห้าม แต่หากได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ก็สามารถทำได้ (เช่น กรณีที่โรงพยาบาลเป็นผู้ร้องขอให้ถ่ายทำด้วยโดรน)
  • บริเวณโดยรอบที่มีการขึ้นลงของอากาศยาน ต้องปราศจากสิ่งกีดขวาง
  • นักบินอากาศยานต้องบังคับบินภายในระยะที่สามารถมองเห็นอากาศยานได้ตลอดเวลา ห้ามบังคับอากาศยานโดยใช้กล้องของอากาศยานหรืออุปกรณ์อื่นที่คล้ายกัน
  • เวลาที่สามารถบินได้คือเฉพาะช่วงที่มีแสงสว่างเพียงพอให้มองเห็นอากาศยานได้ชัดเจน ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก
  • ห้ามบินใกล้เมฆหรือบินเข้าไปในเมฆ
  • ห้ามบินภายในระยะ 9 กิโลเมตรจากสนามบินหรือพื้นที่ขึ้นลงของอากาศยาน เว้นแต่จะได้รับอนุญาต
  • ห้ามบินโดรนเกินความสูง 90 เมตร (300 ฟุต) จากพื้นดิน
  • ห้ามบินเหนือเมือง หมู่บ้าน ชุมชน หรือพื้นที่ที่มีผู้คนรวมตัวกัน
  • ห้ามยัดหรือเก็บโดรนลงในกระเป๋าอย่างฝืนหรือแน่นเกินไป
  • ห้ามละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น
  • โปรดบินโดยไม่ก่อความรำคาญหรือรบกวนผู้อื่น
  • ห้ามขนส่งหรือบรรทุกวัตถุอันตรายหรืออุปกรณ์ปล่อยแสงเลเซอร์ไปพร้อมกับอากาศยาน
  • ห้ามบินโดรนที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม ในระยะห่างน้อยกว่า 50 เมตร ในแนวนอนจากบุคคล ยานพาหนะ หรืออาคาร และสำหรับโดรนที่มีน้ำหนักระหว่าง 2–25 กิโลกรัม ก็ห้ามบินในระยะห่างน้อยกว่า 50 เมตร เช่นกัน
  • หากเกิดอุบัติเหตุหรือปัญหา ให้รีบติดต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) โดยด่วน (เบอร์โทรศัพท์ในเวลาทำการ: 0-2568-8800 ต่อ 1504, 1505, โทรสาร: 0-2568-8848 หากเป็นนอกเวลาทำการ กรุณาติดต่อที่เบอร์ 081-839-2068 หรืออีเมล: uav@caat.or.th)

พื้นที่ห้ามบินโดรนในกรุงเทพมหานคร

สถานที่ต่อไปนี้เป็นพื้นที่ห้ามบินโดรน (อ้างอิงจาก CAAT)

  1. ท่าอากาศยานดอนเมือง
  2. กองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์
  3. สวนรถไฟ(ワチラベンチャタート公園)
  4. สนามราชมังคลากีฬาสถาน(ラチャマンカラ国立競技場)
  5. สวนหลวงร.9(ラーマ9世公園)
  6. ป่าในกรุง(メトロフォレスト)
  7. สนามบินสุวรรณภูมิ(スワナプーム空港)
  8. ตลาดนัดรถไฟรัชดา(鉄道市場ラチャダー)
  9. เอสพลานาด รัชดาภิเษก(エスプラナード)
  10. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ(戦勝記念塔駅)
  11. พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน(チットラダー宮殿)
  12. สะพานพระราม8(ラマ8世橋)
  13. ท่ามหาราช(ターマハラート)
  14. วันพระแก้วและเขตวังฯ(ワットプラケオ)
  15. วันอรุณราชวราราม(ワットアルン)
  16. สวนลุมพินี(ルンピニ公園)
  17. สวนเบญจกิตติ(ベンジャキティ公園)
  18. สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา(H.M. King IX Park)

สวนสาธารณะ วัด หรือแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ไม่อนุญาตให้บินโดรน นอกจากนี้ยังอาจมีสถานที่อื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการนี้ซึ่งไม่สามารถบินได้ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจก่อนทำการบินทุกครั้ง

การถ่ายทำด้วยโดรนในกรุงเทพฯ นั้น นอกจากการยื่นคำขอต่อ CAAT แล้ว ยังจำเป็นต้องมีการติดต่อและเตรียมเอกสารกับตำรวจด้วย หลังจากยื่นคำขอแล้ว CAAT จะมีคำสั่งเพิ่มเติมมา แต่ ผู้ขอต้องไปที่สถานีตำรวจซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ที่จะบินล่วงหน้าหลายวัน เพื่อดำเนินการจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็น

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการ ถ่ายภาพและวิดีโอด้วยโดรนในประเทศไทย

สำหรับบริการ การถ่ายทำด้วยโดรนในประเทศไทย (วิดีโอและภาพถ่าย) สามารถติดต่อเราได้ทุกเมื่อ ทีมงานนักบินโดรนของเราพร้อมให้บริการทั่วประเทศ และสามารถเดินทางไปยังทุกพื้นที่ตามที่ลูกค้าต้องการ

ドローンサービス タイ

เรามีใบอนุญาตบินโดรนในประเทศไทย และสามารถจัดหานักบินโดรนทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทยได้ หากสนใจโปรดติดต่อเราได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

タイでカメラ機材を買うならおすすめ店舗を紹介!

การอธิบายขั้นตอนและกำหนดเวลาของการผลิตวิดีโอ

ลงทะเบียน โดรนที่ซื้อในไทย ออนไลน์กับ CAAT และ NBTC

PAGE TOP
thไทย