最終更新日:2025/03/16
เอกสารและขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการบินโดรน
การบินโดรนในกรุงเทพฯ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการยื่นขออนุญาตหลายขั้นตอน ก่อนที่จะสามารถบินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนและเอกสารที่จำเป็นสำหรับการบินโดรน เพื่อให้คุณสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
1.1 NBTC
NBTC (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) เป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทยที่รับผิดชอบการลงทะเบียนตัวเครื่องและรีโมทคอนโทรลของโดรน ในการลงทะเบียนกับ NBTC จะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ (อ้างอิงข้อมูลการลงทะเบียนปี 2024)
- บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนาบัตรประชาชนที่มีลายเซ็นกำกับ
- ที่อยู่ปัจจุบันในประเทศไทย พร้อมเอกสารยืนยัน เช่น ทะเบียนบ้าน หรือใบแจ้งหนี้ค่าน้ำ/ค่าไฟ
- รูปถ่ายหมายเลขซีเรียล ของตัวเครื่องโดรนและรีโมทคอนโทรลที่จะลงทะเบียน
- รูปถ่ายตัวเครื่องโดรนจริง (มุมด้านหน้า ด้านหลัง ด้านบน ด้านล่าง และด้านข้างทั้งสอง)
- แบบฟอร์มการลงทะเบียน NBTC (กรอกและลงลายมือชื่อ)
ผ่านการลงทะเบียนกับ NBTC แล้ว ผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนได้บนเว็บไซต์ของ NBTC โดยตรง สำหรับโดรนที่ซื้อภายในประเทศไทย มีร้านค้าที่ให้บริการช่วยดำเนินการลงทะเบียน NBTC แนะนำให้สอบถามกับร้านก่อนซื้อ เพื่อความสะดวกและประหยัดเวลา
1.2 CAAT
CAAT ย่อมาจาก “Civil Aviation Authority of Thailand” หรือสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตสำหรับการบินโดรนอย่างถูกต้องตามกฎหมายในไทย เปรียบได้กับใบขับขี่รถยนต์ การลงทะเบียนเพียงกับ NBTC และทำประกันอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอสำหรับการบินโดรนในประเทศไทย ผู้ใช้งานจำเป็นต้องลงทะเบียนกับ CAAT ด้วย การลงทะเบียนกับ CAAT ทำได้ 2 วิธี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการดำเนินการให้เสร็จสิ้น
- การไปยื่นคำขอลงทะเบียนด้วยตนเองที่ CAAT
- การลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ (สำหรับโดรนที่ซื้อภายในประเทศไทยเท่านั้น)
1.3 ประกันภัย
การทำประกันภัยสำหรับโดรนเป็นข้อกำหนดบังคับตามกฎหมายไทย ก่อนที่จะบินโดรน ผู้ครอบครองต้องทำประกันภัยบุคคลที่สาม (Third-Party Liability Insurance) เพื่อคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น ปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยหลายแห่งในประเทศไทยที่ให้บริการประกันภัยโดรน ผู้ใช้งานสามารถเลือกความคุ้มครองและวงเงินตามความต้องการ แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดเงื่อนไขและความคุ้มครองก่อนซื้อ
สำหรับผู้ที่ต้องการทราบขั้นตอนการลงทะเบียน NBTC และ CAAT สามารถอ่านได้ที่บทความ 「วิธีลงทะเบียนโดรนที่ซื้อในประเทศไทยกับ CAAT และ NBTC ผ่านระบบออนไลน์」
วิธีบินโดรนในกรุงเทพฯ
การบินโดรนในกรุงเทพฯ มีขั้นตอนและข้อกำหนดที่ซับซ้อน ต้องใช้เวลาและเอกสารหลายอย่าง แนะนำให้ศึกษาข้อมูลและเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนยื่นคำขอ เพื่อป้องกันความล่าช้าในการอนุมัติ
2.1 土地のオーナー等からの許可書

การบินโดรนในประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ หรือพื้นที่ที่มีการดูแลเป็นพิเศษ จำเป็นต้องมี ใบอนุญาตบินโดรน จากเจ้าของที่ดินหรือผู้ดูแลพื้นที่นั้น ๆ ตาม กฎหมายโดรนประเทศไทย แม้จะไม่มีรูปแบบเอกสารที่กำหนดตายตัว แต่ควรจัดทำหนังสือเป็นภาษาไทย ระบุสถานที่ที่จะบินอย่างชัดเจน และลงลายเซ็นของเจ้าของหรือผู้ดูแลพื้นที่ เพื่อให้เป็นไปตาม ข้อกำหนดการบินโดรน และป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต
การยื่นคำขอไปยัง CAAT


หากต้องการ บินโดรนในประเทศไทย โดยเฉพาะการบินกลางแจ้ง ผู้บังคับโดรนจะต้องยื่นคำขอ ใบอนุญาตโดรน CAAT ก่อนเสมอ การยื่นขอสามารถทำผ่านอีเมลไปยัง CAAT ได้ และใช้เวลารออนุมัติประมาณ 2–5 วันทำการ เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการยื่นคำขอมีดังนี้ (จัดเตรียมให้ครบถ้วนเพื่อลดเวลาการพิจารณา)
1. แบบฟอร์ม VTR1 (ข้อมูลตัวเครื่อง ออกโดย CAAT)
2. แบบฟอร์ม STO001 (วัตถุประสงค์การบิน ออกโดย(CAAT)
3. หนังสืออนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ดูแลพื้นที่บิน
4. ประกันภัยโดรน (Drone Insurance)
5. ใบอนุญาตจาก CAAT
6. ใบอนุญาตจาก NBTC
7. อีเมลตอบรับจาก CAAT
8. หนังสือเดินทางหรือบัตรประชาชนของผู้ควบคุม และใบอนุญาตทำงาน (ถ้ามี)
9. เอกสาร DBD หรือหนังสือรับรองบริษัท (กรณีใช้ในนามนิติบุคคล)
เคล็ดลับ: ควรตรวจสอบ เอกสารลงทะเบียนโดรน ให้ครบก่อนส่งคำขอ เพื่อป้องกันการล่าช้า
ใบอนุญาตจากตำรวจ
ในกรณีที่ต้องการ บินโดรนในกรุงเทพฯ ผู้ใช้งานจะต้องมี ใบอนุญาตจากตำรวจ นำเอกสารการยื่นขอและอีเมลยืนยันอนุญาตจาก CAAT ไปที่สถานีตำรวจที่ดูแลพื้นที่นั้นโดยตรง เจ้าหน้าที่จะออกเอกสารยืนยันวันและเวลาที่ได้รับอนุญาตให้นำไปใช้เป็นหลักฐานในการบินอย่างถูกกฎหมายตาม กฎหมายโดรนประเทศไทย
หมายเหตุ: แม้ว่าจะเคยมีการยื่นคำขอโดยถูกต้องแล้ว บางครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจไม่คุ้นชินกับกระบวนการลงทะเบียนโดรน ทำให้ต้องติดต่อหลายหน่วยงาน หรือถูกส่งไปยังแผนกอื่น ๆ จึงควรวางแผนและเตรียมเวลาเผื่อไว้ให้เพียงพอ
พื้นที่ห้ามบินโดรนในกรุงเทพฯ
สถานที่ต่อไปนี้เป็นพื้นที่ห้ามบินโดรน (อ้างอิงจาก CAAT)
- ท่าอากาศยานดอนเมือง
- กองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์
- สวนรถไฟ(ワチラベンチャタート公園)
- สนามราชมังคลากีฬาสถาน(ラチャマンカラ国立競技場)
- สวนหลวงร.9(ラーマ9世公園)
- ป่าในกรุง(メトロフォレスト)
- สนามบินสุวรรณภูมิ(スワナプーム空港)
- ตลาดนัดรถไฟรัชดา(鉄道市場ラチャダー)
- เอสพลานาด รัชดาภิเษก(エスプラナード)
- อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ(戦勝記念塔駅)
- พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน(チットラダー宮殿)
- สะพานพระราม8(ラマ8世橋)
- ท่ามหาราช(ターマハラート)
- วันพระแก้วและเขตวังฯ(ワットプラケオ)
- วันอรุณราชวราราม(ワットアルン)
- สวนลุมพินี(ルンピニ公園)
- สวนเบญจกิตติ(ベンジャキティ公園)
- สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา(H.M. King IX Park)
สวนสาธารณะ วัด หรือแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ไม่อนุญาตให้บินโดรน นอกจากนี้ยังอาจมีสถานที่อื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการนี้ซึ่งไม่สามารถบินได้ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจก่อนทำการบินทุกครั้ง
วิธีบินโดรนนอกกรุงเทพฯ
ไม่ว่าคุณจะบินโดรนในกรุงเทพฯ หรือในพื้นที่อื่น ๆ ขั้นตอนการขออนุญาตบินโดรน (ขั้นตอนการขออนุญาตบินโดรน) โดยหลักแล้วจะคล้ายกัน แต่จากประสบการณ์การยื่นขออนุญาตหลายครั้ง พบว่ายังไม่มีกฎเกณฑ์ที่ใช้ร่วมกันทั่วประเทศ ในกรุงเทพฯ มีกฎการบินโดรน (กฎการบินโดรน) ที่เข้มงวดมาก ขณะที่บางจังหวัดนอกเขตเมืองใหญ่ อาจเพียงแค่มีใบอนุญาตบินโดรน (ใบอนุญาตบินโดรน) จาก CAAT ก็สามารถบินได้ แต่ในบางพื้นที่อาจต้องแจ้งสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือขออนุญาตจากกองทัพอากาศเพิ่มเติม ดังนั้น ก่อนทำการบินทุกครั้ง ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับ CAAT เพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมาย
โดยหลักแล้ว หากปฏิบัติตามขั้นตอนที่อธิบายไว้ข้างต้น ก็สามารถบินโดรนได้ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ ในกรณีพื้นที่ห่างไกล เช่น ทะเล ภูเขา หรือบริเวณที่ไม่มีผู้คน อาจไม่ต้องดำเนินการขั้นตอนอย่างเข้มงวดนัก อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยและป้องกันปัญหาทางกฎหมาย ควรดำเนินการ ลงทะเบียนโดรน และ ขออนุญาตบินโดรน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยก่อนทุกครั้ง

หากคุณกำลังวางแผน บินโดรนในประเทศไทย สามารถใช้ข้อมูลนี้เป็นแนวทางได้ ทางเรามีบริการ รับถ่ายโดรน ทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริการถ่ายโดรน และหากสนใจสามารถ ติดต่อเรา ได้ทุกเวลา

ประธานบริษัท Dayzero Bangkok Co.,Ltd. ผู้ให้บริการผลิตวิดีโอและการตลาดออนไลน์ในประเทศไทย เริ่มทำช่อง YouTube ในปี 2017 และก่อตั้งบริษัทในปี 2018 ให้บริการด้านวิดีโอ โฆษณา และการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร